เรียนฟรีไดฟ์ที่ไหนดี ?

อีกหนึ่งคำถามยอดนิยม สำหรับคนที่สนใจจะเริ่มเรียนฟรีไดฟ์ จะเลือกเรียนที่ไหนดีล่ะ? สถาบันไหนดี มีสถาบันให้เลือกเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็น SSI, PADI, AIDA, Molchanovs, RAID เยอะจนเลือกไม่ถูก พอเลือกสถาบันได้แล้ว ก็ต้องเลือกครูอีก ครูผู้สอนก็มีมากมาย จะเลือกครูท่านไหนดีล่ะ? บทความนี้จะกล่าวถึงรายละเอียดเบื้องต้นของแต่ละสถาบัน รวมถึงปัจจัยที่เราควรนำมาพิจารณา เพื่อตัดสินใจว่า เราควรเรียนฟรีไดฟ์ที่ไหนดี

ก่อนอื่น ขอพูดถึง สถาบันต่างๆก่อนนะครับ สถาบันดำน้ำในประเทศไทย ก็มีหลายสถาบันมากๆ ในบทความนี้ ผมขอกล่าวถึง สถาบันหลักๆที่นิยมในเมืองไทย ได้แก่ SSI, PADI, AIDA, Molchanovs ที่กล่าวถึง เพียง 4 สถาบันนี้ ไม่ได้หมายความว่า สถาบันอื่นๆ ไม่ดีแต่อย่างใดนะครับ เพียงแต่ จากเท่าที่ติดตามและค้นหาข้อมูล 4 สถาบันนี้ น่าจะมีเครือข่ายศูนย์ฝึก (Training center) มากที่สุด และน่าจะมีครูสอนจำนวนมากที่สุดด้วย เรามาเริ่มกันที่สถาบันแรก สถาบันที่ผมจบมา และรู้จักดีที่สุด 

SSI (Scuaba Schools Intenational) 

SSI สถาบันเก่าแก่ ก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 1970 เริ่มจากกลุ่มธุรกิจดำน้ำ รวมตัวกันตั้งสถาบันดำน้ำ แบบ SCUBA และขยายการเรียนการสอนไปหลากหลายสาขา เช่น ว่ายน้ำ และ Freediving โปรแกรม หลักสูตรของ SSI ครอบคลุม ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น จนถึง ระดับขั้นสูง ระดับมืออาชีพ หลักสูตรสอน ทักษะพื้นฐาน ทักษะด้านความปลอดภัย และเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ ปรัชญาของสถาบัน คือ Comfort through Repetition คือ ทักษะจะพัฒนาขึ้นได้ผ่านการทำซ้ำ จนเชี่ยวชาญและเป็นธรรมชาติ ผมเป็นครูสถาบันนี้ ก็จะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับสถาบันนี้มากกว่าสถาบันอื่นๆ ที่ชอบมากและคิดว่า SSI ทำได้ดีมาก คือ สื่อการเรียนการสอนต่างๆ Log book, Certificate ทุกอย่างรวมกันอยู่ที่เดียวในแอป ของ SSI ทำให้สะดวกมากๆ และ SSI Certificate ได้รับการยอมรับในระดับสากล 

AIDA (Association Internationale Pour Le developpemnet de I’Apnee)

ก่อตั้งปี 1992 AIDA เปิดสอนตั้งแต่ระดับเบื้องต้น จนถึงระดับสูง การฝึกสอนจะเน้นย้ำ เรื่อง ความปลอดภัย เทคนิค และการศึกษา คอร์สจะเน้น เทคนิคการกลั้นหายใจ การเคลียร์หู ขั้นตอนความปลอดภัย เทคนิคขั้นสูงเช่น Free Immersion เช่นเดียวกับ SSI, Certificate ของ AIDA ได้รับการยอมรับระดับสากล

PADI (Professinal Association of Diving Instructors)

อีกหนึ่งสถาบันเก่าแก่ ก่อตั้ง ตั้งแต่ปี 1966 มีชื่อเสียงในวงการ Scuba diving เนื่องจากเป็นสถาบันเก่าแก่ จึงมีเครือข่ายศูนย์ดำน้ำทั่วโลกจำนวนมาก ทำให้สามารถหาที่เรียนได้ง่าย PADI เปิดคอร์ส Freediving สำหรับผู้เริ่มต้น จนถึงระดับสูง 

Molchanovs

ค่อนข้างใหม่ในวงการ ก่อตั้งโดย Alexey Molchanov เจ้าของสถิตโลก Freediving หลายรายการ และเป็นลูกชายของ ตำนาน Freediver, Natalia Mochanova สถาบันนี้จะเน้นเรื่องการศึกษา การเรียนรู้ และผลงาน จะเน้นการฝึกเพื่อการพัฒนาและแข่งขัน หลักสูตร ครอบคลุม การฝึกทั้งทางกาย การฝึกจิตใจ และการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง

ตารางเปรียบเทียบ หลักสูตรแต่ละสถาบัน SSI, AIDA, PADI

จากตารางเปรียบเทียบระดับของหลักสูตร จะเห็นว่า SSI และ AIDA จะมีระดับของหลักสูตรครบถ้วนกว่า ถ้านักเรียนยังไม่มั่นใจว่าจะเรียนได้หรือไม่ หรือ อยากแค่ทดลองเรียน หรืออยากแค่เรียนเพื่อ fun dive สนุกๆ AIDA, SSI จะมีระดับเริ่มต้นอย่าง Basic และ AIDA* ส่วน PADI ผู้สนใจอาจจะต้องเรียนจริงจังกว่า เพราะเริ่มที่ระดับ Freediver เลย 

ในการเลือกสถาบัน นั้น ผมว่าหลักๆแล้ว เราคงต้องดูเนื้อหา หลักสูตร เพื่อเปรียบเทียบว่า หลักสูตรไหน เนื้อหาและเวลาเรียนเหมาะสมกับเรา ที่สำคัญ หลักสูตรต้องครอบคลุม ทักษะ ความรู้ที่สำคัญ โดยเฉพาะ เทคนิคการหายใจ ขั้นตอนความปลอดภัยต่างๆ เพิ่มเติมจากส่วนหลักสูตร นักเรียนควรพิจารณา ปรัชญาของแต่ละสถาบัน ด้วยว่า ตรงกับวัตถุประสงค์ในการเรียนของเราหรือเปล่า เช่น ถ้าเราเรียนเน้นการดำสนุกๆ ดำเพื่อการท่องเที่ยว (Recreation) เราก็อาจเลือกสถาบัน ที่ปรัชญาการเรียนเน้นความสนุก สบาย ยืดหยุ่น แต่ถ้าเราอยากเรียนเพื่ออีกหน่อยจะลงแข่งขัน เป็นนักกีฬา หรือทำความลึก เราก็อาจเลือกสถาบันที่เน้น พัฒนาการ เน้นผลลัพย์ Performance อีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม คือ ควรเลือกสถาบันที่มีเครือข่ายกว้างไกล มีศูนย์ดำน้ำจำนวนมาก เพราะเราจะมีทางเลือกในการเรียนมากขึ้น สะดวกสบายขึ้น

การเลือกครูผู้สอนฟรีไดฟ์

จากประสบการณ์ทั้งที่เคยเป็นทั้งนักเรียนและครูมา ในส่วนเรื่องของทักษะ และ performance ขึ้นชื่อว่าครูแล้ว ไม่ว่าจากสถาบันไหน เท่าที่ผมเคยพบเจอมา ทักษะครูทุกท่านอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากๆ สามารถสอนนักเรียนได้อย่างสบาย เพราะโดยมากแล้ว มาตรฐานของคุณครู จะสูงกว่า ระดับคอร์สของนักเรียนที่ครูสามารถสอนได้มาก ผมว่าอย่างน้อย 2 เท่า เช่น สำหรับ SSI ครูที่สอนนักเรียน Level 1 ที่ฝึกฝน สอบที่ระดับ 10-20 เมตร ครูต้องสามารถดำได้ถึง 20-30 เมตร ขึ้นไป และกลั้นหายใจได้ขั้นต่ำ 3 นาที (ขณะที่นักเรียนขั้นต่ำต้องกลั้นได้ 1.30 นาที) หรือ ครูระดับ FAI (Freediving Assistant Instructor หรือ Pool Instructor) ที่สอนได้ถึงขั้น Pool Freediver ก็ต้องสอบผ่าน Level 1 (ชื่อปัจจุบัน Freediver) ดำได้อย่างน้อย 10-20 เมตรขึ้นไป และกลั้นหายใจได้ขั้นต่ำ 2.30 นาที เพื่อฝึกนักเรียนในสระในระดับความลึกไม่เกิน 5 เมตร

เมื่อในส่วนของทักษะการสอนของครูนั้น น่าจะใกล้เคียงกัน และมาตรฐานสูง ปัจจัยสำคัญที่เราจะใช้เลือกครู น่าจะเป็นเรื่อง ความปลอดภัย ความใส่ใจ อัธยาศัย ความใกล้ชิด ครูดูแลใกล้ชิดหรือไม่? จำนวนนักเรียนในคลาสเยอะจนครูดูแลไม่ทั่วถึงหรือเปล่า? ครูเป็นคนนิสัยเคร่งขรึม จริงจัง หรือสนุกสนาน เราคงต้องพยายามเลือกครูที่มีนิสัย ทัศนคติ ใกล้เคียงกัน การเรียนการสอนจึงจะเป็นไปอย่างราบรื่น อยากให้ลองคิด จินตนาการง่ายๆว่า เราคิดว่า เราสามารถฝากชีวิต ความปลอดภัยของเรากับครูท่านนี้ได้หรือไม่?” ตอนที่ผมเรียนหลักสูตรครู ครูนุ ผู้ฝึกสอนครู (Instructor Trainer) ถ่ายทอดความรู้อย่างเต็มที่ และดูแลอย่างใกล้ชิดมากๆ ทำให้ผมอุ่นใจ สบายใจ และมีความมั่นใจว่าเราเรียนได้อย่างปลอดภัย ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กล่าวได้เลยว่า ครูนุ คือ ครูในอุดมคติ เป็นต้นแบบของครูที่ดี

นอกจากนั้น ปัจจัยอื่นๆ ที่เราอาจนำมาพิจารณา ก็อาจรวมถึง บริการเสริมอื่นๆ เช่น บริการถ่ายภาพใต้น้ำ อุปกรณ์ต่างๆ ฟิน บุย weight ทางครูจัดหา ให้ความสะดวกด้วยหรือเปล่า

การเลือกสระว่ายน้ำ 

เมื่อเลือกสถาบัน และครูได้แล้ว สุดท้าย เราก็ควรตัดสินใจเลือกสถานที่เรียน เราอาจเลือกสถานที่เรียนที่สะดวกใกล้บ้าน หรืออาจเลือกสระที่ลึกหน่อย จะได้ฝึกซ้อมได้หลากหลายและท้าทายมากขึ้น ส่วนตัวผมชอบสระที่ มหิดล ศาลายา เพราะมีสระให้ฝึกถึง 3 สระ มีทั้งสระ 50 เมตร ลึก 1.8 เมตร สระ 25 เมตร ลึก 1.4 เมตร และสระโดดน้ำลึก 5 เมตร และอยากจะแนะนำว่า ถ้าเป็นไปได้ให้เลือกสระที่ลึกจะดีกว่า เพราะเราจะสามารถซ้อมได้หลายรูปแบบ เช่น การซ้อมเคลียร์หู ถ้าเป็นสระลึกแค่ 2.6-3.0 เราเคลียร์หูแค่จากผิวน้ำครั้งเดียวก็น่าจะพอแล้ว แต่ถ้าเป็นสระลึก 5 เมตร เราจะเคลียร์ที่ผิวน้ำ 1 ครั้ง และเคลียร์เมื่อเราทำ Arm Stroke ลงไปลึกประมาณ 3 เมตรได้อีกหนึ่งครั้ง แต่ถ้าเน้นเรื่องความปลอดภัย นักเรียนว่ายน้ำไม่เป็น หรือว่ายน้ำไม่แข็ง สระ Seascout และ BB marine ก็นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สระมีขนาดเล็ก และไม่ลึกมาก ดูแลง่าย ทั่วถึง สามารถอ่านเรื่องสถานที่เรียนเพิ่มเติมได้ที่บทความนี้ครับ เรียนฟรีไดฟ์กรุงเทพ ธรรมศาสตร์ ศาลายา นนบทุรี

 

สระว่ายน้ำเรียน Freediving ศาลายา

สระมหิดล ศาลายา Salaya Intro Dive

ความลึกฝึกฝนสูงสุด 5 เมตร

สระ BB Marine

ความลึกฝึกฝนสูงสุด 2.65 เมตร